-=-=-=-=-=-=- กลับหน้าหลักเวบบอร์ด ของ www.4x4.in.th -=-=-=-=-=-=-




 เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:00:00
 สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE

มีข้อความ
__  __

เอาไดชาร์จมาทำเป็นเครื่องเชื่อมฉุกเฉินดีกว่า
เอาไดชาร์จมาทำเป็นเครื่องเชื่อมฉุกเฉินดีกว่า

ตั้งใจว่าจะลงก่อนปีใหม่แต่ก็ลืมซะงั้น จนไปกลิ้งบนดอยมาถึงนึกได้ อิอิ ตอนนี้ก็คิดว่าได้ฤกษ์งามแหละ เลยเอามาลงให้ชมกัน
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า "เครื่องเชื่อมฉุกเฉิน" จึงไม่เหมาะที่จะเอามาเชื่อมงานทั่วไปแบบเอาจริงเอาจัง

ทีแรกก็ว่าใช้ไดชาร์จมาติดตั้งอีกลูกนึงแต่ไม่มีพื้นที่แล้ว พอจะติดได้ต้องทำขายึดคอมแอร์ก๊ะตัวปั่นพาวเวอร์ใหม่ ยุ่งยากไปอ่ะ
ก็เลยคิดว่า ได้ชาร์จที่ใช้อยู่นั่นแหละเอามาติดสวิทช์เพิ่มเข้าไปเวลาจะชาร์จก็โยกสวิทช์ไปทางนึง เวลาเชื่อมก็โยกสวิทช์ไปทาง
นึง อิอิ ดูเหมือนง่ายๆๆ แต่คิดไปคิดมาหลายรอบ ก็เลยมาจบที่ใช้รีเลย์ทำสวิทช์ซะเลย

ได้ชาร์จที่ใช้ 75A ขึ้นไปหากเหล็กบางๆก็น่าจะพอได้แต่ไม่ยืนยันเพราะไม่ได้ลอง ผมเริ่มต้นทดลองโดยเอาไดชาร์จ 90A ที่เสีย
แล้วรื้อชุดเรกูเลเตอร์สำหรับควบคุมแรงดันไฟออก ต่อไฟตรงเข้าไปแปรงถ่าน ยกขึ้นไปประกอบที่รถ ติดเครื่องแล้วลองเลยเอา
ไปเชื่อมเหล็กแป๊บได้สบายเผลอทะลุพรวด ฮ่าๆๆ ใช่ได้วุ้ย

ทีนี้ทางสว่างเลยครับ รถผมใช้ไดชาร์จขนาด 100A อยู่เลยเอาอันนี้แหละพังเป็นพัง เพราะมีสำรองอยู่สองลูก ฮรี่ ฮรี่ เริ่มหาข้อมูล
วงจรเรกูเลเตอร์ไดชาร์จของรถตัวเองเพื่อจะได้รู้ว่าวงจรเป็นยังไงจะได้รื้องัดแงะออกมาตัดต่อถูก แต่ก็หาไม่พบคงเป็นความลับ
ของผู้ผลิตมั้ง ฮ่า ฮ่า

ที่เจอก็เป็นวงจรแบบปกติของไดชาร์จทั่วไปซึ่งก็น่าจะพอแล้ว สุดท้ายก็แกะรื้อของตัวเองออกมาไล่วงจรดู แล้วเปรียบเทียบกับ
วงจรมาตรฐานทั่วไป ก็คิดว่าน่าจะตรงกัน หากใครสนใจอยากทำบ้างก็อ่านให้เข้าใจก่อนนะ เพราะหากผิดพลาดไป เดี๋ยวจะมไม่
มีชาร์จไฟแบตนะ อิอิ


 

ชอบ 5
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
กัน GPO , Oldman and old ZU , นายโต , Bombsu , กวางต้นน้ำ ,  
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น :   &  ปิด - เปิด การถาม/ตอบ ในกระทู้  &  แก้ไข]

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:02:17
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 1
คลิ๊กที่ภาพ

1
สำหรับผมเริ่มต้นจาก ถอดไดชาร์จในรถออกมาเลย และรื้อเรกกูเลเตอร์ออกมาแล้วก็เขียนวงจรหลักๆมันขึ้นมาใหม่ตามรูปซ้ายมือ
นะโดยที่อุปกรณ์พื้นฐานดังนี้ อธิบายแบบง่ายๆงูๆปลาๆนะ ต้องรอให้อาจารย์ช่างยนต์มาเสริมที่ถูกต้องอีกทีละกัน อิอิ

1.1 field coils เป็นตัวสร้างสนามแม่เหล็ก ก็อันที่เป็นโรเตอร์หมุนได้ตามแรงฉุดเครื่องยนต์ผ่านสายพานและพูลเล่ย์ นั่นแหละ
โดยจ่ายกระแสไฟผ่านขั้วแปรงถ่านเข้าไปเลี้ยงขดลวดที่พันไว้ จึงเกิดสนามแม่เหล็ก
1.2 stator coils เป็นขดลวดพันอยู่รอบแกนเหล็ก เป็นตัวสร้างกระแสไฟฟ้าสลับ AC โดยใช้อำนาจสนามแม่เหล็กที่โรเตอร์สร้าง
ขึ้น ไปตัดกับขดลวด stator จึงสร้างกระแสไฟออกมา
1.3 ไดโอด ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสสลับ AC ให้เป็นไฟฟ้ากระแสตรง DC และกระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ทิศทางเดียว
1.4 IC regulator ทำหน้าที่ควบคุมแรงเคลื่อนไฟฟ้าที่สร้างขึ้นมาให้อยู่ในค่าที่ไม่ต่ำว่าและไม่เกินกำลังของอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้
และแบตเตอรี่ เมื่อแรงเคลื่อนเกิน ก็จะไม่จ่ายกระแสไฟไปเลี้ยงขดลวดโรเตอร์ จึงไม่มีอำนาจสนามแม่เหล็กไปตัดกับขดลวด
stator จึงไม่สร้างกระแสไฟออกมา เมื่อแรงเคลื่อนไฟฟ้าลดลงกว่าที่กำหนด ก็จะจ่ายกระแสไฟไปเลี้ยงขดลวดโรเตอร์สร้าง
สนามแม่เหล็กไปตัดกับขดลวด stator จึงสร้างกระแสไฟออกมา ทำงานสลับไปแบบนี้เรื่อยๆไปจนกว่าจะดับเครื่องยนต์

ตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละขาของ IC regulator
P = เปรียบเทียบแรงดันไฟฟ้าที่ขดลวดผลิตได้กับขา S และ B
L = ต่อไปหลอดไฟแสดงผลการชาร์จ
S = เปรียบเทียบแรงดันไฟฟ้า ไฟเลี้ยงขาเข้าผ่านสวิทช์กุญแจ
E = ต่อลงกราวน์ เพื่อวงจรทำงานสมบูรณ์
F = ควบคุมการจ่ายไฟไปที่ขดลวดโรเตอร์ เพื่อสร้างสนามแม่แหล็ก
B = ต่อกับแบตเตอรี่ขั้วบวก แรงดันไฟฟ้าขาออก

วงจรซ้ายมือข้างบนนี้เป็นสภาวะการทำงานปกติของไดชาร์จ จากการความคุมของ IC regulator ไม่ให้กระแสไฟเกิน จึงเอา
กระแสฟฟ้าไปที่ถูกควบคุมไปเชื่อมไม่ได้เพราะแรงเคลื่อนและกระแสไฟน้อยกินไป

การนำเอากระแสไฟฟ้าไปเชื่อมได้ต้องไม่มีการควบคุมจาก IC regulator ดังนั้จึงจำเป็นต้องตัด IC ออกจาระบบ แต่ขณะ
เดียวกัน จำเป็นต้องใช้ชาร์จแบตเตอรี่ด้วย จึงต้องมีการดัดแปลงวงจรเล็กน้อย

วงจรด้านขวา โดยเปรียบเทียบกับวงจรด้านซ้ายนะว่าเส้นไหนที่หายไป คือส่วนที่ถูกตัดออก และส่วนที่ต่อเพิ่มคือเส้นสีแดงในวงจร
1.5 วงจรขวาตัดขา IC ขา E ออกจากกราวน์ IC ก็ไม่ทำงานแล้ว
1.6 IC ขา F ตัดออกจากแปรงถ่านเพราะขานี้จะควบคุม ปิด-ปิดกราวน์ให้ขดลวดโรเตอร์ครบวงจรสร้างสนามแม่เหล็ก
1.7 ตัดสัญญาณ IC ขา B ที่ต่อกับขั้วบวกแบตตัดด้านนี้ออกเพื่อเราจะใช้ไฟจากแบต 12V มาเลี้ยงให้ขดลวดโรเตอร์ครบวงจร
สร้างสนามแม่เหล็กแทนที่จะใช้ไฟที่ไดชาร์จสร้างออกมา เพราะว่าไม่มี IC regulator ควบคุมแรงเคลื่อนมันสูงมากเกินไป
เดี๋ยวขวดลวดโรเตอร์จะไหม้เสียหาย

สวนที่ต่อเพิ่มเพื่อเอาไปผ่านสวิทช์เลือกว่าจะใช้เป็นชาร์จไฟหรือเครื่องเชื่อม ของผมที่ออกแบบไว้ใช้รีเลย์ทำหน้าที่แทน
สวิทช์โยกป๊อกแป๊กทั่วไป ตำแน่งสีของสายไฟที่จะใช้อ้างอิงวงจรดังนี้

Black = สายสีดำ
Yellow = สายสีเหลือง
Green = สายสีเขียว
Red = สายสีแดง

และที่สำคัญทำเป็น connector ขั้วต่อสายไฟไว้ เพื่อสำหรับต่อพ่วงไปกล่องสวิทช์ควบคุม และสะดวกต่อการซ่อมบำรุงอื่นๆ
และสำหรับฉุกเฉินกล่องควมคุมมีปัญหา จะได้ต่อตรงใช้สำหรับชาร์จไฟได้ตามปกติตามหน้าที่ของมัน อิอิ


 



ชอบ 1
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
กัน GPO ,  
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:03:01
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 2
คลิ๊กที่ภาพ

2
รูปแสดงวงจรสวิทช์ควบคุมสำหรับเลือกว่าใช้สำหรับชาร์จไฟหรือใช้เป็นเครื่องเชื่อม หากไม่ต้องการสิ้นเปลืองก็ใช้
สวิทช์โยกป๊อกแป๊กสางทาง ใช้สามตัวแทน RL1 และ RL2 ใช้วิธีขนานหน้าคอนแทคสวิทช์เพื่อเพิ่มหน้าสัมผัสให้ทน
กระแสไฟได้มากขึ้น แต่เวลาใช้งานก่อนโยกสวิทช์เลือก จะต้องดับเครื่องยนต์ก่อน เพื่อไม่ให้ IC regulator เสียหาย
เพราะโรเตอร์ยังมีอำนาจสนามแม่เหล็กอยู่ และจะต้องต่อสายไฟจากไดชาร์จเข้าขั้วแบตอีก อิอิ เพราะเวลาเชื่อมเรา
ปลดออกไง อย่า งง นะ

หรืออยากประหยัดสุดก็ตัดสวิทช์ออกไป ใช้ปลั๊กที่ทำไว้ตอตรงได้เลย เอาละ มาว่ากันต่อจากวงจรของผมเพราะไม่อยาก
ต้องคอยปลดสายไฟบ่อยๆๆจึงออกแบบมาใช้รีเลย์แทนสวิทช์ทั้งหมด ซึ่งใช้รีเลย์หลายตัวก็มีเหตุผล ลองอ่านให้เข้าใจก็
จะรู้เอง อิอิ

อุปกรณ์หลักๆที่ใช้มีดังนี้

2.1
สวิทช์ทำหน้าที่ตัดต่อเพื่อจ่ายไฟจากแบตเตอรี่มาเลี้ยงทั้งระบบและรีเลย์

สวิทช์อยู่ตำแหน่ง OFF หมายถึงอยู่ในสถานะชาร์จไฟ
สวิทช์อยู่ตำแหน่ง ON หมายถึงอยู่ในสถานะเครื่องเชื่อม

2.2
รีเลย์ RL1 สถานะชาร์จไฟ
2.2.1- ทำหน้าที่ตัดต่อเลือกใช้ IC regulator เชื่อมต่อขา E ลงกราวน์ สภาวะปกติ NC กราวน์ที่รีเลย์ขา 5 มาต่อผ่านรีเลย์ขา 1
2.2.2- ทำหน้าที่ตัดต่อเลือกให้ขดลวดโรเตอร์ผ่านแปรงถ่านใช้กราวน์ที่ควบคุมโดย IC หรือต่อตรงลงกราวน์ สภาวะ
ปกติ NC จากแปรงถ่านมาที่รีเลย์ที่ขา 6 ใช้กราวน์ควบคุมจาก IC ที่รีเลย์ขา 2

รีเลย์ RL1 สถานะเครื่องเชื่อม
2.2.3- ตัดกราวน์ออกจากขา E ของ IC ที่รีเลย์ขา 5 ไปต่อกับรีเลย์ขา 3 ซึ่งว่างไว้
2.2.4- แปรงถ่านมาที่รีเลย์ที่ขา 6 ต่อตรงลงกราวน์ที่รีเลย์ขา 4

รีเลย์ RL2 สถานะชาร์จไฟ
2.2.5- ทำหน้าที่เลือกขา B ของ IC และแปรงถ่านมาที่รีเลย์ขา 9,12 ต่อกับรีเลย์ขา 1,4 เลือกไฟที่สร้างขึ้นมาจากขดลวด stator

รีเลย์ RL2 สถานะเครื่องเชื่อม
2.2.6- ทำหน้าที่เลือกขา B ของ IC และแปรงถ่านมาที่รีเลย์ขา 9,12 ต่อกับรีเลย์ขา 5,8 เลือกไฟที่มาจากแบตโดยผ่าน RL3

รีเลย์ RL3 สถานะชาร์จไฟ
2.2.7- จาก RL2 ขา 5,8 มาที่ RL3 รีเลย์ขา 4 ทำหน้าที่เลือกกราวน์มาทางขา 2 เพื่อเลือกไฟ 0V หรือกราวน์

รีเลย์ RL3 สถานะเครื่องเชื่อม
2.2.8- จาก RL2 ขา 5,8 มาที่ RL3 รีเลย์ขา 4 ทำหน้าที่เลือกไฟบวก 12V มาทางขา 3

รีเลย์ RL4 สถานะชาร์จไฟ
2.2.9- ทำหน้าที่เชื่อมต่อขั้วได้ชาร์จ B กับแบตเตอรี่ เข้ามาทางรีเลย์ขา 9-12 กับขา 1-4 ต่อไปยังแบตเตอรี่

ผมใช้แบบนี้เพราะไม่ต้องขันน็อตปลดสายแบต-ต่อสายแบตกับไดชาร์จบ่อยๆๆ แต่รีเลย์ที่ใช้หน้าคอนแทคต้องทนกระแสสูงๆ
ได้ดี ผมใช้ ohron LY4 10A 4 คอนแทคต่อขนานกันสองตัวได้หน้าคอนแทคทนกระแสได้ 80A โดยประมาณ ที่คอนหวันหาได้
สูงสุดเท่านี้ รถผมใช้แบตสองลูกช่วงที่ชาร์จแรกๆ มิเตอร์วัดกระแสได้ถึง 60A ซึ่งหนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

รีเลย์ RL4 สถานะเครื่องเชื่อม
2.2.10- ทำหน้าที่ปลดขั้วได้ชาร์จ B ออกจากแบตเตอรี่ โดยเข้ามาทางรีเลย์ขา 9-12 กับขา 5-8 ปล่อยว่างไว้

รีเลย์ RL5 สถานะชาร์จไฟ
2.2.11- ไม่ได้ถูกใช้งาน

รีเลย์ RL5 สถานะเครื่องเชื่อม
2.2.12- ทำหน้าที่เป็น power switch ทำงานพร้อมกันกับสวิทช์หลักในวงจร โดยขนานหน้าคอนแทคกับสวิทช์เพื่อให้ทนกระแส
ไฟได้มากขึ้น

2.3 ชุดความคุมการทำงานของรีเลย์ RL5 ซึ่ง RL5 จะทำงานได้ก็ต่อเมื่ออยู่ในสถานะเครื่องเชื่อมเท่านั้น เมื่อตรวจจับแรงเคลื่อน
ไฟฟ้าได้มากกว่า 22V ซีเนอร์ไดโอดจะยอมให้กระแสไฟไหลผ่านตัวมันทำให้มีกระแสไฟไปไบอัสกระตุ้นให้ทรานซิสเตอร์ทำงาน
ปิดวงจร ยอมให้กระแสไหลผ่านได้ RL5 จึงลงกราวน์ผ่านตัวมันไป RL5 จึงทำงานได้ พร้อมกับทำให้หลอดไฟแสดงการทำงาน
ติดสว่างด้วย

2.4 ดิจิตอลโวลท์มิเตอร์แสดงผลได้ 0-100VDC โดยวัดแรงดันไฟฟ้าที่ออกมาจากขั้วไดชาร์จขณะเป็นเครื่องเชื่อม

2.5 ด้านล่างของวงจร ตำแหน่งต่อสายที่จะทำเป็น connector ขั้วต่อสายไฟไว้ เพื่อสำหรับต่อพ่วงไปกล่องสวิทช์ควบคุม
และสะดวกต่อการซ่อมบำรุงอื่นๆและสำหรับฉุกเฉินกล่องควมคุมมีปัญหา จะได้ต่อตรงใช้สำหรับชาร์จไฟได้ตามปกติ
ตามหน้าที่ของมัน อิอิ

2.5.1 ปลั๊กตัวซ้ายมือเป็นปลั๊กตัวผู้ ทำติดตัวไดชาร์จไว้
2.5.2 ปลั๊กตัวที่สองจากซ้ายเป็นปลั๊กตัวเมีย ซึ่งมาจากกล่องควบคุม
2.5.3 ปลั๊กตัวที่สามจากซ้ายเป็นปลั๊กตัวเมีย ซึ่งทำไว้สำหรับต่อตรง ใช้สำหรับชาร์จอย่างเดียว
2.5.4 ปลั๊กขวามือสุดเป็นปลั๊กตัวเมีย ซึ่งทำไว้สำหรับต่อตรง ไม่ต้องผ่านสวิทช์รีเลย์ควบคุม ใช้สำหรับเชื่อมอย่างเดียว อิอิ

2.6
การทำงานของวงจรของชุดกล่องควบคุม
เมื่ออยู่ในสถานะชาร์จแบตเตอรี่
2.6.1 สวิทช์อยู่ในตำแหน่ง OFF ไม่มีไฟเลี้ยงเข้าไปทำงาน
2.6.2 ไฟชาร์จจากไดชาร์จไหลผ่านหน้าคอนแทค RL4 จาก 9-12 ไปที่ 1-4 เข้าไปชาร์จแบตเตอรี่และเลี้ยงในระบบไฟรถยนต์ทั้งหมด

เมื่ออยู่ในสถานะเครื่องเชื่อม
2.6.3 สวิทช์อยู่ในตำแหน่ง ON มีไฟเลี้ยงเข้าไปทำให้ RL3, RL4, RL1, RL2 ทำงานตามลำดับ
2.6.4 จากนั้นเมื่อแรงดันไฟฟ้ามากเกิน 22V RL5 จึงทำงานพร้อมทั้งหลอดไฟแสดงการทำงานติดสว่าง
2.6.5 โวลท์มิเตอร์แสดงแรงดันในขณะนั้น

เมื่อทำการเชื่อมเสร็จสิ้น
2.6.6 ลดรอบเครื่องยนต์ลงมาที่รอบเดินเบาปกติ ปิดสวิทช์อยู่ในตำแหน่ง OFF แต่ยังมีไฟเลี้ยงจ่ายทำงานอยู่เพราะรีเลย์ RL5
ถูกต่อขนานไว้กับสวิทช์ ซึ่งยังไม่หยุดทำงานจนกว่าแรงดันไฟจะต่ำกว่า 22V
2.6.7 รีเลย์ RL3 หยุดทำงาน ตัดไฟบวก 12V ออกและต่อลงกราวน์ไปแทน ทำให้ไม่มีไฟเลี้ยงผ่านไปยัง RL2 เพื่อไปยังขดลวด
โรเตอร์จึงหมดสภาพแม่เหล็ก จึงไม่สามารถไปสร้างกระแสไฟฟ้าออกมาได้
2.6.8 เมื่อไม่มีกระแสไฟไปเลี้ยงขดลวดโรเตอร์เพื่อสร้างสนามแม่เหล็ก แรงดันไฟที่ขั้วไดชาร์จ B จึงตกลงจนต่ำกว่า 22V ไม่มี
กระแสไฟไหลผ่านซีเนอร์ไดโอดไปไบอัสทรานซิสเตอร์ จึงหยุดทำงานเปิดวงจรไม่มีกระแสไหลผ่านตัวมัน จึงทำให้หลอดไฟ
แสดงการทำงานดับ RL5 หยุดทำงานไปด้วย หน้าคอนแทคแยกจากกันตัดไฟเลี้ยงเข้าวงจร รีเลย์ RL2, RL1, RL4 จึงหยุดทำงาน
2.6.9 เมื่อรีเลย์หยุดทำงานจึงกลับไปสู่สถาณะชาร์จแบตเตอรี่ตามปกติ



ตอบ เมื่อ : 2015-05-20 18:49:02
แก้ไขวงจรกล่องควบคุมใหม่นะ อยู่หน้าที่ 2 หัวข้อที่ 41 ,42 เนื่องจากอันนี้มันยุ่งยากไปหน่อย เอาใหม่แบบง่ายๆๆ แล้วกัน ก่อนลงมือทำให้โทรมาถามก่อนนะว่ามีแก้ไขอะไรอีกบ้าง


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:03:54
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 3
คลิ๊กที่ภาพ

3
ผมใช้ไดชาร์จ 100A ตัวนี้ครับเนื่องจากถุงหิ้วที่ใส่มันขาดเลยหล่นตุ๊บ ซี่โครงหักเลยเอิ๊กๆๆ ตอนนั้นไม่กล้าเอาออกไปขายเลย
เก็บไว้ใช้เอง ก็เปลี่ยนเอาเสื้อไดชาร์จ 90A มาใส่ได้พอดีฟลุ๊คจัง


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:04:25
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 4
คลิ๊กที่ภาพ

4
รูปแสดงภายในไดชาร์จที่แกะออกแล้ว เพราะจะต้องแกะรื้อเอา IC regulator ออกมาเพื่อตัดขาที่ไม่ใช้ด้วย อิอิ


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:05:05
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 5
คลิ๊กที่ภาพ

5
รูปแสดงแผง IC regulator ตัวดำๆที่เห็นคือ capcitor สำหรับกรองสัญญาณรบกวนความถี่สูงทิ้งไป


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:05:30
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 6
คลิ๊กที่ภาพ

6
พลิกกลับมาอีกด้าน แงะเอาซิลิโคนที่ปิดออก ก็จะเห็นรอยบัดกรี จากนั้นก็เอาหัวแร้งบัดกรีที่ร้อนพร้อมแล้วจี้ไปที่รอยตะกั่ว
ให้ละลาย หากละลายยากก็ให้เอาตะกั่วจี้ไปที่ปลายหัวแร้งให้เป็นตุ่มๆก่อน แล้วจิ้มไปที่รอยบัดกรีที่จะเอาตะกัวออก เพราะ
ตะกั่วที่ปลายหัวแร้งจะไปเพิ่มพื้นที่กระจายความร้อน ทำให้ตะกั่วละลายเร็ว

จากนั้นให้รีบเคาะเบาๆให้ตะกั่วหลุดออกมาจนหมดเห็นขา IC โผล่ออกมา ก็ดัดขาให้ตรงๆ จะได้รื้อถอดออกง่ายไม่เสียหาย
แต่อย่าจี้ที่ตะกั่วให้ละลายนานนะ เดี๋ยวตะกั่วภายในตัว IC ที่ยึดขามันไว้จะละลายหลุดด้วย เตือนไว้ก่อน เอิ๊กๆๆ


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:05:57
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 7
คลิ๊กที่ภาพ

7
เมื่อตะกั่วออกหมดแล้ว สังเกตุดูว่าขา IC จะอยู่กลางรูโยกเยกได้นิดหน่อย ก็พลิกกลับมาอีกด้านนะ ค่อยๆขูดกาวที่ติดกับ
ขอบแผ่นระบายความร้อนมันออกก่อน ค่อยๆๆขูดกาวซิลิโคนออกด้วย เน้นนะค่อยๆๆเพราะขา IC มันเล็กเดียวจะขาด

จากนั้นใช้ไขควงแบเล็กๆๆค่อยๆๆแงะตามรูปนะ ค่อยๆๆงัดให้ขยับทีและนิดเบาๆๆนะเดี๋ยวแตกแบบผม ฮ่า ฮ่า ฮ่า ย้ำเตือนนะ
ว่าอย่าเอาปลายไขควงเข้าไปงัดลึกกว่านี้นะ เดี๋ยวพุงมันจะแตก มันบางมากจริงๆๆ เชื่อผมเถอะ พออ้าได้ประมาณรูปแบบนี้
ก็เปิดดูรูปถัดไปเลย


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:06:19
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 8
คลิ๊กที่ภาพ

8
ค่อยๆแงะ งัดตามรูปนี้นะ โดยใช้โยกด้ามไขควงขึ้นลงตามลูกศรสีแดงนะ อย่าใช้ปลายไขควงงัดนะมุมมันไม่ได้ ให้ใช้ก้านมัน
ตามลูกศรนะเป็นตัวงัด เชื่อผมเถอะบอดี้มันจะได้ไม่แตก อิอิ นี่ก็เตือนไว้




 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:06:45
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 9
คลิ๊กที่ภาพ

9
ถอดเอา IC ออกมาได้แล้ว ทีนี้ก็ค่อยๆๆแกะเอาซิลิโคนที่หุ้มขามันออกให้หมดนะ เบาๆเดี๋ยวขามันงอโยกเยกมากมันจะหักเอา
ใจเย็นๆนะ แต่เดี๋ยวก่อนให้ทำสัญลักษณ์บอกทิศทาง IC กับแผงวงจรมันไว้ด้วย เวลาประกอบกลับคืนจะได้ใส่ถูกต้องไม่ผิด
เห็นไหมจุดแดงๆที่แต้มไว้ และในรูปที่ 14 ด้วย อิอิ



 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:07:10
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 10
คลิ๊กที่ภาพ

10
รูปนี้แสดงตำแหน่งของขา IC และสายสัญญาณที่มันหล่อไว้เป็นแผงสำเร็จรูปหาได้โดยการถอด IC ออกก่อนแล้วใช้มิเตอร์วัด
หาจากตำแหน่งขา IC ที่แต่ละขา ไปจุดต่อสัมผัสทั้งหมด ว่าขาไหนของ IC ต่ออกไปจุดไหนบ้าง ของผมวัดได้ออกมาตามรูป
โดยตรงกับวงจรตามรูปที่ 1 โน่นเลย อิอิ

ซึ่งหากเป็น แผง IC regulator รุ่นอื่นผมไม่แน่ใจนะว่าตำแหน่งจะตรงกันไหม แต่ที่ลองวัดของตัว 90A แล้วตรงกันกับรุ่น 100A
ตัวนี้


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:07:33
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 11
คลิ๊กที่ภาพ

11
ต่อไปตัดสายสัญญาณขา B ของ IC ที่ต่อกับแบตเตอรี่ขั้วบวกออก (ตามรูปที่ 1 ข้อที่ 1.7) ให้ถอด capacitor ออกก่อน แล้ว
ใช้ใบเลื่อย เลื่อยออกมามุมนี้เลย เพราะว่าตำแหน่งสายสัญญาณมันอยู่ตรงนี้ เอิ๊กๆๆ ดูรูปถัดไปก่อนเลื่อยนะ



 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:08:00
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 12
คลิ๊กที่ภาพ

12
เลื่อยลงไป นิดนึงแล้วใช้มิเตอร์วัดดูว่ามันขาดหรือยัง โดยวัดตำแน่งขา B ของ IC ในรูปที่ 10 กับขั้วแบต B ในรูปที่ 10 เหนือ
Capacitor จุดนั้น

หากขาดแล้วก็พอ ทำความสะอาดซะแล้วก็ประกอบ Capacitor กลับไปที่เดิม แล้วบัดกรีให้เรียบร้อย ลองเอาไปใส่ในตัว
ไดชาร์จดูว่า ใส่แล้ว Capcitor มันลึกไปจนไปค้ำกับเสื้อไดชาร์จฝาหลังหรือเปล่า หากมันค้ำ จะขันน็อตยึดแล้ว หน้า
สัมผัสขั้ว E จุดกราวน์ของแผง IC (ตามรูปที่ 10 ในรูกลมๆใต้ Capacitor) ไม่สัมผัสกับเสื้อได้ฝาหลัง ไดชาร์จก็จะไม่ทำงาน
อิอิ


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:08:26
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 13
คลิ๊กที่ภาพ

13
ต่อไปหยิบ IC มาหงายท้องดูขามัน หันจุด mark สีแดงไปตามรูป จากนั้นก็ตัดขา F และ ขา E ออกครึ่งนึงประมาณว่าเสียบ
IC กลับเข้าไปในแผงวงจรแล้วขาไม่ทะลุออกไปที่ด้านต้องบัดกรี ตัดสั้น 2 ขา ที่ขา E และ F และส่วนขาที่เหลือ 4 ขาไม่ตัด

จากนั้นบัดกรีต่อสายสัญญาณตามรูปนี้นะ อย่าสับสนต่อสลับสายล่ะ รูปนี้แสดงถึงการต่อสายของแต่ละสี และขาของ IC อีก
ด้านที่ต้องบัดกรีกลับเข้าไปในแผงวงจรเหมือนเดิม


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:08:56
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 14
คลิ๊กที่ภาพ

14
สายสีเขียวก็บัดกรีกลับเข้าไปที่ตำแหน่งขา F ที่แผงวงจรตามรูป ต่อไปจัดระเบียบสายไฟที่จะใช้ให้อยู่ในช่องระหว่างขา
IC แล้วลองเสียบเข้าไปในแผงวงจรดูก่อนประกอบจริง ว่ามันแนบสนิทเหมือนเดิมหรือเปล่า แก้ไขซะตอนนี้เลย


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:09:36
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 15
คลิ๊กที่ภาพ


15
พร้อมแล้วก็ หยอดซิลิโคนที่ใต้ท้อง ช่องว่างระหว่าขา IC แล้วกด IC ให้แนบสนิทดังรูป กดไว้อย่างนั้นแล้ว พลิกไปด้านหลัง
บัดกรีขา IC ที่โผล่ยื่นออกมาให้เรียบร้อยเหมือนเดิม




 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:10:07
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 16
คลิ๊กที่ภาพ

16
เสร็จแล้วก็เอาแผง IC กลับเข้าไปประกอบกลับชุดแผงไดโอด โดยจับคู่สาย สีเหลืองกับสีเขียว และสีแดงกับสีดำ จากนั้น
ค่อยๆ สอดผ่านรูเสื้อไดชาร์จฝาหลัง (ตามรูปที่ 18) ระวังซีลยางวงกลมสีดำที่แผง IC หล่นหายนะ อิอิ

ขยับแผง IC เบาๆ สลับกับดึงสายไฟด้านหลังด้วย จนแผง IC ลงไปแนบสนิทกับฝาหลังเสื้อไดชาร์จ สายไฟด้านหลังไม่ไป
ค้ำยันด้านแผ่นระบายความร้อนของ IC จนประกอบไม่สนิท จากน้้นบัดกรีให้เรียบร้อย ตามรูป

หมายเหตุ หากใครไม่อยากต่อแผงไดโอดเพิ่มก็ข้ามไปที่หัวข้อรูป 18 ทาซิลิโคนแล้วประกอบได้เลย พร้อมเอาไปทดสอบ

กรณีของผมนี้ ใช้แผงไดโอดต่อเพิ่มอีกแผงด้านหลังเสื้อไดชาร์จ (ดูรูปที่ 18,19 ประกอบ) เพราะว่ามีเหลือจากไดชาร์จที่
IC regulator เสียแต่ไดโอดยังใช้ได้ ตามสายไฟเส้นสีเหลืองในรูปผมใช้สายขนาด 2.5 sqmm. สอดผ่านช่องว่างของ
แผงไดโอดตามรูปเลย

หากใครต้องการกระแสสูงๆโดยที่แผงไดโอดไม่ร้อนมากจนเสียหาย ก็ลองไปหาได้โอดแบบ stud แบบที่ใช้กับเครื่อง
ชาร์จแบตนั่นแหละ มาต่อตามวงจรที่ 1 ติดไดโอดบนแผ่นฮีตซิ้งค์ระบายความร้อนด้วย แยกกันนะขั้วบวกแผ่นนึง ไป
ขั้วลบแผ่นนึงอย่าให้แผ่นฮีตซิ้งค์ระบายความร้อนมันติดกัน มันจะช๊อตสปาร์คกันได้ แล้วพ่วงสายจากขดลวดนี้ตามรูป
เป็นกระแสสลับออกไปใช้


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:10:44
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 17
คลิ๊กที่ภาพ

17
ปรับแต่งจนได้ที่แล้ว ก็บัดกรีสายไฟสีเหลืองตามรูป ทาซิลิโคนปิดรอยบัดกรีให้เรียบร้อยตามรูป พลิกไปด้านฝาหลัง
บัดกรีปลายสายสีเหลืองกับแผงไดโอดให้ตรงกับตำแหน่งกับแผงภายในเสื้อไดชาร์จนี้ด้วย


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:11:42
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 18
คลิ๊กที่ภาพ

18
ประกอบโรเตอร์กลับเข้าไป ประกอบขั้วต่อสายแบบต่อตรงไม่ผ่านกล่องควบคุมเข้าไป เผื่อฉุกเฉินจะได้ใช้ไดชาร์จได้
อย่างเดียวเหมือนเดิม




 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:12:19
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 19
คลิ๊กที่ภาพ


19
อีกมุมนึงสำหรับไดชาร์จ 100A ในโครงเสื้อไดชาร์จ 90A อิอิ พร้อมแผงไดโอดเพิ่ม




 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:12:55
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 20
คลิ๊กที่ภาพ

20
พร้อมแล้วก็นำไดชาร์จไปปั่นทดสอบดู ว่ายังทำงานตามปกติอยู่ จ่ายไฟเข้ามอเตอร์ปั่นไดชาร์จ ไฟแสดงการชาร์จดับก็เป็นอันว่า
ปกติเหมือนเดิมแหละ

ประกอบไดชาร์จกลับลงไปในห้องเครื่องตำแหน่งเดิมของมัน ต่อสายไฟต่างๆกลับลงไปที่เดิม แล้วลองติดเครื่องดูว่าไดชาร์จทำงาน
ปกติ อิอิ สบายใจละ



 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:13:40
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 21
คลิ๊กที่ภาพ

21
ขั้นตอนต่อไปก็ประกอบกล่องควบคุม ซึ่งต่อตามวงจรในรูปที่ 2 ตรง RL4 ขา 1-4 ไปที่ขั้วแบต และ 9-12 ไปที่ขั้วไดชาร์จ ใช้สาย
ไฟเส้นใหญ่ๆเท่าที่ทำได้นะ เพราะตรงนี้มันรับกระแสสูงเวลาชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่

ตามรูปผมใช้น็อตสแตนเลสเป็นจุดเชื่อมต่อ โดยวางน็อตตัวบนซ้ายสำหรับต่อสายไฟไปที่แบตเตอรี่ เพราะสายเดิมของผมมันยืด
ยาวออกมาได้เท่านี้ อิอิ

ขอบอกว่าน็อตสแตนเลสตัวบนซ้ายกับตัวล่างขวาขณะใช้เป็นชาร์จแบตเตอรี่มันร้อนมากจนจับไม่ได้เลยแหละ กล่องใส่แต่ก่อน
ผมเป็นพลาสติก มันละลายน็อตหลุดออกมาเลย เลยต้องเปลี่ยนเป็นกล่องเหล็กแทน อีกอย่านึงนะเข้าใจว่าสแตสเลสมันนำไฟฟ้า
ได้ไม่ดี คิดว่าจะหาน็อตทองเหลืองหรือทองแดงมาใช้แทน แต่ที่คอนหวันหาไม่ได้เลย ต้องใช้สแตนเลสไปก่อน อิอิ

ตำแหน่งจุดกราวน์น็อตตัวล่างซ้าย และตำแหน่งน็อตสำหรับพ่วงไปที่หัวเชื่อมอยู่ด้านล่างขวา สายไฟที่เห็นผมไปได้มาจากตลาด
นัดของเก่าที่ค่ายจิระประวัติ นครสวรรค์ เส้นใหญ่สมใจจริงๆ เข้าหัวแบบนี้มาเรียบร้อยยาว 60 cm. พร้อมใช้ เหมือนเตรียมไว้ให้
ผมเลยนะนี่ อุปกรณ์ด้านในกล่องก็มีเพียงรีเลย์ก็เต็มแล้ว อิอิ

หลังจากประกอบเดินสายรีเลย์เสร็จตามวงจรเรียบร้อยแล้ว ก็ลองทดสอบการทำงานดูก่อนติดตั้ง ยังไม่ต้องต่อกับไดชาร์จนะ
ลองจ่ายไฟ 12V เข้าไป เปิดสวิทช์ดู รีเลย์ทุกตัวต้องทำงานยกเว้นนีเลย์ RL5 เพราแรงดันไฟไม่ถึง ลองเช็ดูความถูกต้องของ
สายที่ต่อแต่ละขั้วรีเลย์ให้ถูกต้อง เสร็จแล้วก็ปิดฝากล่องให้เรียบร้อย ก็เอามาติดตั้งลงไปตามพื้นที่ว่างและอำนวย ผมติดตั้งถัด
จากหม้อกรองอากาศ เพราะมีช่องว่างลงพอดีเป๊ะ

21.1 ปลดสายปลักพ่วงฉุกเฉินที่ทำไว้ (ตามรูปที่ 2 ข้อที่ 2.5 และรูปที่ 18) ที่ไดชาร์จออก แล้วเอาสายจากกล่องควบคุมไปต่อให้
เรียบร้อย
21.2 ปลดสายแบตที่ขั้วไดชาร์จมาต่อไว้ที่กล่องควบคุมที่น็อตด้านซ้ายบนตามรูป
21.3 ต่อสายกราวน์ที่น็อตตัวล่างด้านซ้ายตามรูป
21.4 ต่อสายขั้วบวกจากกล่องควบคุมน็อตตัวล่างด้านขวา ไปที่ขั้วไดชาร์จขันล็อคน็อตให้แน่น

ตรวจสอบความถูกต้องอีกที พร้อมแล้วติดเครื่อง ที่ปกติรอบเดินเบาของผม 1000 รอบ เปิดสวิทช์ On ปุ๊บแรงดันไฟจะขึ้นไปที่
ประมาณ 41-46V ตามรูป คิดว่าไฟคงโชว์ไม่เท่ากันทุกตัวนะ และทุกคันนะ อิอิ



 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:14:33
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 22
คลิ๊กที่ภาพ


22
ลองเร่งเครื่องประมาณ 3000 รอบได้ฟังจากเสียงพบว่าแรงดันขึ้นไปถึง 109V ได้เลย นี่ในสภาวะไม่มีโหลดยังไม่ได้เชื่อม

เวลาจะเชื่อมก็ต่อสายเชื่อมที่ขั้วไดชาร์จ น็อตตัวล่างด้านขวาในรูปทดลองเชื่อมแรงดันไฟจะตกลงมาประมาณ 48-75V
แล้วแต่รอบที่เราใช้ หรือพูดง่ายๆๆ เร่งรอบเร่งไฟนั่นแหละ อิอิ ซึ่งก็พอเชื่อมเหล็กหนา 3 มม.ทะลุได้ก็พอแหละ

เมื่อเสร็จสิ้นแล้วไม่ควรปิดสวิทช์ทันที ให้รอบเครื่องลงมาที่รอบเดินเบาปกติก่อน หรือดับเครื่องยนต์เลยก็ได้ จึงปิดสวิทช์
(ดูรูปที่ 2 ข้อที่ 2.6.6) เพื่อให้เป็นการชาร์จแบตตามปกติ



 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:15:12
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 23
คลิ๊กที่ภาพ

23
อุปกรณ์ที่สำหรับเชื่อมที่มีติดรถไว้ก็มีดามรูปนี้แหละ แว่นที่เห็นในรูปเป็นแว่นเชื่อมแก๊สแต่ความเข้มของกระจกเข้มเท่า
กระจกเชื่อมไฟฟ้า ตอนเลือกซื้อก็ลองใส่ดูแหงนหน้ามองดูหลอดไฟในห้างเห็นลางๆ แล้วเทียบกับหน้ากากเชื่อมไฟฟ้า
โดยแหงนหน้าเช่นกัน ดูว่าอันที่เห็นแสงรางๆผ่านน้อยมากหรือมองไม่เห็นเลย ก็เอาอันนั้นมาแหละยังไงก็ยังป้องกันสายตา
ได้ดีกว่าแว่นกันแดดที่ช่างทั่วไปใช้ละกัน เชื่อผมเถอะ หรือดูที่เบอร์กระจกเข้มเท่ากันก็ได้ เลือกแว่นแบบนี้แทนหน้ากาก
ใช้สำหรับชื่อมเพราะว่า มันเล็กมีกระจกสองชั้นเปิดมองชิ้นงานก่อนได้และเก็บพกพาสะดวกไง อิอิ

สายสำหรับเชื่อมก็ใช้สายขาด 35 sqmm. ยาว 6 m. พอแล้ว หัวจับลวดเชื่อมก็เลือกเอาที่มันจับลวดได้แน่นหนา น้ำหนัก
เหมาะสม ส่วนสายกราวน์ที่ใช่จับชิ้นงาน ก็ฉุกเฉินไว้ใช้กับรถตัวเองอ่ะ เลยไม่ใช้ อิอิ หากจะใช้เชื่อมกับรถคันอื่นก็ใช้สาย
พ่วงแบตเตอรี่ได้ไม่มีปัญหา

ลวดเชื่อมที่ใช้ก็เอาแค่ 2.6 มม.ก็พอแล้วเพราะเพียงพอกับคำว่าฉุกเฉินแล้ว อิอิ


 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   เสือตอ
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:15:46
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 24
24
งบประมาณที่ใช้ ก็สูงพอสมควรเลยนะเพราะผมใช้รีเลย์ กดสวิทช์ตัวเดียวก็ใช้งานได้เลย แต่หากมองในแง่การใช้งาน
ฉุกเฉินแล้วผมคิดว่าคุ้มค่าไม่แพงเลย มีพร้อมดีกว่าไม่มีเพราะผมไปเที่ยวส่วนมากไปคันเดียวเสมอ ยกเว้นเวลาไปทำ
กิจกรรมจะไปเป็นหมู่คณะ

แต่คิดอีกทีไปเที่ยวแล้วจะมีอะไรต้องแตกหักล่ะถึงกับต้องเชื่อมกันเดี๋ยวนั้นเลย อิอิ น่าคิดเนอะ

อุปกรณ์ที่ต้องใช้ ราคาผมไม่แน่ใจนะเพราะซื้อที่คอนหวันหมดยกเว้นไดชาร์จซื้อจากเชียงกง DC โวลท์ซื้อจากกรุงเทพ
1- ไดชาร์จ 100A 1@2,000ซื้อจากเชียงกงบางพลี
2- รีเลย์ omron type LY4 10A 4 contact 2@350
3- รีเลย์ 10A 2 contact 2@135
4- รีเลย์ 10A 1 contact 1@60
5- รีเลย์ bosch 30A 1@90
6- สวิทช์ 1@45
7- 0-100VDC voltmeter 1@400ซื้อจากกรุงเทพ
8- กล่องเหล็ก 1@ 220
9- ชุดควบคุมรีเลย์ 1@45
10- น็อตสแตนเลส 3@22
11- สายไฟ 4x1.5 1@60
12- สายไฟ 5x1 sqmm. 5@7
13- ขั้วต่อสายไฟ+หางปลา 1@30
14- ท่อหด 1@10
15- สายไฟจากตลาดนัดเส้นโต 2@100
16- สายเชื่อม 35 sqmm. 6@80ซื้อจากโกบอลเฮ้าส์
17- หัวจับลวดเชื่อม 1@130ซื้อจากโกบอลเฮ้าส์
18- แว่นตา 1@60ซื้อจากโกบอลเฮ้าส์
19- ลวดเชื่อม 1@125
20- อื่นๆบางอย่างมีอยู่แล้ว

รวมแล้วประมาณ 5,026 บาทราคาแบบเวอร์ของผม ซึ่งสามารถซื้อเครื่องเชื่อม inverter ได้เลยนะเนี่ย 555

แต่อย่าพึ่งถอดใจนะ ยังมีราคาแบบ manual ล้วนๆๆอยู่ ทุกอย่างต้องปลดสาย เสียบปลั๊ก แล้วเชื่อม เสร็จแล้ว
ก็ต้องปลดสาย เสียบปลั๊ก แล้วชาร์จ 555 แบบนี้ใช้งานได้เหมือนกันทุกประการ ฮรี่ ฮรี่

อุปกรณ์มีแค่
1- ไดชาร์จ 100A 1@2,000ซื้อจากเชียงกง
2- ขั้วต่อสายไฟ+หางปลา 1@30
3- สายไฟ 2x1.5 1@10

รวมแล้วประมาณ 2,050 บาท ก็ปลั๊กตัวล่างขวามือสุดในวงจรรูปที่ 2 ข้อที่ 2.5 ไงล่ะเตรียมไว้ให้แล้ว

อิอิ ก็เป็นอันว่าผมเอาไดชาร์จมาทำเป็นเครื่องเชื่อมฉุกเฉินเสร็จแล้วนะครับ หากท่านใดมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวงจรและอุปกรณ์
ที่ผมใช้ก็สอบถามได้นะ โทรมาถามก็ได้คำตอบเร็วหน่อย โพสถามไว้ก็อาจจะช้าหน่อยเพราะไม่ได้เปิดคอมทั้งวันเหมือนเมื่อ
ก่อน

ที่จริงคิดและออกแบบไว้เยอะ ขนาดที่ว่าจะเป็นเครื่องเชื่อมทันที ที่เอาลวดเชื่อมไปอาร์คเลยแหละ ก็ทำแล้วใช้ได้จริงด้วย
พอเปิดสวิทช์ On ปุ๊บมันก็แสดงแรงดันจากแบเตอรี่ พอติดเครื่องยนต์ก็แสดงแรงดันไฟจากไดชาร์ว่าจ่ายมาเท่าไร สถานะตัว
ไดชาร์จยังเป็นการชาร์จไฟอยู่

พอเอาลวดเชื่อมไปอาร์คปุ๊บมันก็จะ auto เป็นเครื่องเชื่อมให้โดยอัตโนมัติ พอหยุดเชื่อมสัก 10 วินาทีมันก็ OFF กลับมาชาร์จ
ไฟเข้าแบตปกติ ไงล่ะเจ๋งไหม ตอนนี้ปลดออกแล้วเพราะวงจรส่วนนี้ยังทำงานไม่สมบูรณ์

เราใช้วิธีจับสัญญาณไฟลบหรือจังหวะการช๊อตลงกราวน์ แต่ว่าบางช่วงบางจังหวะไดชาร์จมันมีสัญญาณไฟลบออกมาด้วยที่ขั้วมัน
พอบิดกุญแจ ON ปั๊บกล่องมันก็เปลี่ยนเป็นเครื่องเชื่อมอัตโนมัติเลย บางจังหวะติดเครื่องปุ๊บก็เป็นเครื่องเชื่อม บางจะหวะไม่เป็น
อิอิ ก็เลยต้องยกเลิกอันนี้ไปก่อน แต่ทำแน่นอนเดี๋ยวรอให้คิดได้ก่อนนะ ตอนนี้ก็ใช้แบบนี้ไปก่อน

เอาละพูดมาเยอะเยอะแล้ว เพราะมีคนไม่ค่อยชอบอ่านกัน ชอบที่จะทำเลย ทำตามแบบที่แสดง ทำตามตัวอย่าง แต่ทำแล้ว
ไม่เข้าใจการทำงานของมันจริงๆ เวลาเกิดปัญหาก็จะแก้ไม่ได้

ยังไงลองอ่านทบทวนดูให้เข้าใจก่อนแล้วค่อยทำนะ หรือถามผมก็ได้ ไม่ยากอย่างที่คิดจริงๆ
ขอให้โชคดีครับ
เสือตอ



 



ชอบ 2
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
กัน GPO , Oldman and old ZU ,  
Board : vision13
IP 192.168.179.60   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

   หนูน้อยหมวกแดง
 Posted : 26 / 3 / 2013, 13:45:43
สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น สำหรับผู้ดูแลหรือเจ้าของบอร์ดเท่านั้น

LIKE


 จำนวนถาม :
 จำนวนตอบ :
 รวมทั้งหมด : 0


ข้อความเลขที่ : 25
ผมคิดว่าน่าจะใช้ไดโอดมาบล็อคสัญญาณไฟลบได้นะครับ

 



ชอบ 0
ชอบ ข้อความ : L I K E
เลิกชอบ ข้อความ : U N L I K E
 
Board : vision13
IP 202.151.7.24   [ ★ สำหรับ เจ้าของกระทู้ (สมาชิกพิเศษ) เท่านั้น : ตอบ หรือ ลบ หรือ แก้ไข คำถามนี้ ]
กลับขึ้นด้านบน

Page :    1 2

[ ปิดหน้าเพจ ]
   SocialTwist Tell-a-Friend


ชื่อ